สำนักงานศาลยุติธรรม รับ เจ้าหน้าที่วิเทศสัมพันธ์ 3 (บัดนี้ - 5 มิถุนายน 2552)

หน่วยงาน / องค์กร สำนักงานศาลยุติธรรม
รายละเอียด ด้วยคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรมได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 3/2552
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2552 มอบหมายให้สำนักงานศาลยุติธรรมดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุ
บุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการศาลยุติธรรมและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิเทศสัมพันธ์ 3
ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในข้อ 4 ของระเบียบคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรมว่าด้วย
การบริหารงานบุคคลของสำนักงานศาลยุติธรรม พ.ศ. 2544 และข้อ 5 ของหนังสือสำนักงาน ก.พ.
ที่ นร 0708.4/ว 15 ลงวันที่ 9 กันยายน 2535 ที่ นร 0708.4/ว 10 ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2539
ที่ นร 1008/ว 1 ลงวันที่ 5 มกราคม 2547 และพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
มาตรา 139 จึงประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน ดังต่อไปนี้

1. ตำแหน่งที่จะบรรจุและแต่งตั้ง และเงินเดือนที่ได้รับ
1.1 ตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิเทศสัมพันธ์ 3 จำนวน 2 อัตรา เงินเดือน 7,940 บาท
1.2 ลักษณะงานที่ปฏิบัติ
เป็นเจ้าหน้าที่ชั้นต้น ทำหน้าที่ช่วยศึกษารายละเอียดและเตรียมข้อมูล
เกี่ยวกับการให้ความร่วมมือและความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ในเรื่องทุนการศึกษา ฝึกอบรม
หรือดูงาน การให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและวิชาการ และอื่นๆ แปลเอกสารและร่างโต้ตอบ
หนังสือภาษาต่างประเทศ อำนวยความสะดวกต่างๆ ให้แก่ผู้เชี่ยวชาญ เจ้าหน้าที่ต่างประเทศและ
อาสาสมัครที่เข้ามาช่วยเหลือเป็นต้น และปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้อง

2. คุณสมบัติของผู้สมัครสอบ
2.1 ผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติทั่วไปตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 ดังต่อไปนี้
(1) มีสัญชาติไทย
(2) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปี
(3) เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
(4) ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง
(5) ไม่เป็นผู้มีกายทุพพลภาพจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ไร้ความสามารถ
หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคตามที่กำหนดในกฎ ก.พ.
(6) ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักราชการ หรือถูกสั่งให้ออกจาก
ราชการไว้ก่อนตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน หรือตามกฎหมายอื่น
(7) ไม่เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีจนเป็นที่รังเกียจของสังคม
(8) ไม่เป็นกรรมการพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
(9) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
(10) ไม่เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก
เพราะกระทำความผิดทางอาญา เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือ
ความผิดลหุโทษ
(11) ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากรัฐวิสาหกิจ
หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
(12) ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก หรือปลดออก เพราะกระทำผิดวินัย
ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน หรือตามกฎหมายอื่น
(13) ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษไล่ออก เพราะกระทำผิดวินัยตามกฎหมาย
ว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน หรือตามกฎหมายอื่น
(14) ไม่เป็นผู้เคยกระทำการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการ
ผู้ที่ขาดคุณสมบัติตาม (7) (9) (10) (11) (12) (13) หรือ (14) ก.ศ. จะมีสิทธิสมัคร
คัดเลือกต่อเมื่อได้รับการยกเว้นจาก ก.ศ. แล้ว สำหรับผู้ที่ขาดคุณสมบัติตาม (4) มีสิทธิสมัคร
คัดเลือกได้แต่จะมีสิทธิได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการศาลยุติธรรมในตำแหน่งที่คัดเลือก
ได้ต่อเมื่อ พ้นจากตำแหน่งข้าราชการการเมืองแล้ว
2.2 ผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง คือ ได้รับ
ปริญญาตรีหรือเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้ทางสังคมศาสตร์ โดยจะต้องมีความรู้ภาษาอังกฤษเป็น
อย่างดี และมีความรู้ความเข้าใจภาษาอังกฤษทางด้านกฎหมายเป็นอย่างดี
สำหรับพระภิกษุสามเณรทางราชการไม่รับสมัครสอบและไม่อาจให้เข้าสอบแข่งขัน
เพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ ทั้งนี้ ตามหนังสือกรมสารบรรณคณะรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร ที่ นว 89/2501
ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2501 และตามความในข้อ 5 ของคำสั่งมหาเถรสมาคม ลงวันที่ 17 มีนาคม 2538

3. วิธีการสมัครสอบ
สำนักงานศาลยุติธรรมเปิดรับสมัครสอบทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 18
พฤษภาคม 2552 ถึงวันที่ 5 มิถุนายน 2552 ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยเข้าไปที่
www.ojoc.coj.go.th/exam แล้วปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนด ดังนี้
(1) กรอกข้อความในใบสมัครให้ถูกต้องและครบถ้วน โดยปฏิบัติตาม
ขั้นตอนที่กำหนด
(2) พิมพ์แบบฟอร์มการชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์ บมจ.ธนาคารกรุงไทย
(3) นำแบบฟอร์มการชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์ บมจ.ธนาคารกรุงไทย ไปชำระ
เงินค่าสมัครสอบที่ บมจ.ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2552
ถึงวันที่ 8 มิถุนายน 2552 ภายในเวลาทำการของธนาคาร
ค่าธรรมเนียมสอบ ผู้สมัครสอบต้องเสียค่าธรรมเนียมสอบ จำนวน 100 บาท
ทั้งนี้ ไม่รวมค่าธรรมเนียมธนาคาร และค่าบริการทางอินเทอร์เน็ต จำนวน 30 บาท เมื่อชำระ
ค่าธรรมเนียมสอบแล้วจะไม่จ่ายเงินคืนในกรณีใดๆ เว้นแต่มีการยกเลิกการสอบครั้งนี้ทั้งหมด
(4) หลังจากชำระเงินค่าสมัครสอบไปแล้ว 7 วัน ให้ผู้สมัครพิมพ์ใบสมัครที่มี
การระบุเลขประจำตัวสอบ โดยเข้าไปที่ www.ojoc.coj.go.th/exam กรอกหมายเลขบัตรประจำตัว
ประชาชนแล้วกดปุ่มค้นหารายชื่อผู้มีสิทธิสอบ
ในกรณีที่ไม่สามารถพิมพ์ใบสมัครหรือบันทึกข้อมูลได้ ให้ผู้สมัครเข้าไปที่
www.ojoc.coj.go.th/exam ค้นหาใบสมัครกรอกหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน แต่ไม่สามารถที่
จะแก้ไขข้อมูลของการกรอกใบสมัครในครั้งแรกที่สมบูรณ์แล้วได้
(5) ให้ติดรูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวกและไม่สวมแว่นตาดำ ขนาด 1.5 X 2 นิ้ว
ในใบสมัครที่พิมพ์จากอินเทอร์เน็ต พร้อมทั้งลงลายมือชื่อในใบสมัครให้ครบถ้วน แล้วนำมาใน
วันสอบเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเข้าสอบทุกครั้ง

4. หลักฐานและเอกสารที่ต้องนำมาในวันสอบ ภาคความรู้ความสามารถทั่วไป
(ภาค ก) และภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (ภาค ข)
4.1 บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ
4.2 ใบสมัครสอบที่พิมพ์จากอินเทอร์เน็ต ตามข้อ 3(4)
4.3 อุปกรณ์การสอบตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมกำหนด

5. หลักฐานที่ต้องนำมาในวันสอบภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค)
5.1 บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ
5.2 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน อย่างละ 1 ฉบับ
5.3 ใบสมัครสอบที่พิมพ์จากอินเทอร์เน็ต ตามข้อ 3 (4)
5.4 ใบรับรองแพทย์ซึ่งออกให้ไม่เกิน 1 เดือน และแสดงว่าไม่เป็นโรคที่
ต้องห้ามตาม กฎ ก.พ. ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2535)
5.5 สำเนาหลักฐานอื่น ๆ เช่น ใบสำคัญการสมรส ใบเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล
(ในกรณีที่ชื่อ – นามสกุลในหลักฐานการสมัครสอบไม่ตรงกัน) อย่างละ 1 ฉบับ
5.6 สำเนาระเบียนแสดงผลการเรียนที่แสดงว่าเป็นผู้มีวุฒิการศึกษาตรงกับ
ตำแหน่งที่สมัคร จำนวน 1 ฉบับ ทั้งนี้ ผู้ที่จะถือว่าสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรของสถานศึกษาใด
นั้น จะถือตามกฎหมาย กฎ หรือระเบียบเกี่ยวกับการสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรของ
สถานศึกษานั้น ๆ เป็นเกณฑ์ โดยจะต้องสำเร็จการศึกษาและได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติ
ภายในวันที่ปิดรับสมัคร คือวันที่ 5 มิถุนายน 2552
ทั้งนี้ ในสำเนาหลักฐานทุกฉบับให้ผู้สมัครเขียนคำรับรองว่า “สำเนาถูกต้อง”
และลงชื่อกำกับไว้พร้อมทั้งระบุเลขประจำตัวสอบไว้ที่มุมบนด้านขวาด้วย

6. เงื่อนไขการรับสมัครสอบ
ผู้สมัครสอบจะต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบและรับรองตนเองว่า เป็นผู้มี
คุณสมบัติตรงตามประกาศรับสมัครสอบจริง และจะต้องกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ในใบสมัครให้
ถูกต้องครบถ้วนตามประกาศนี้ ในกรณีที่มีการผิดพลาดอันเกิดจากผู้สมัครสอบ สำนักงาน
ศาลยุติธรรมจะถือว่าเป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการสมัครสอบครั้งนี้

7. ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบ วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบเกี่ยวกับการสอบ
สำนักงานศาลยุติธรรมจะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบแข่งขันพร้อมทั้งกำหนดวัน
เวลา สถานที่สอบ และระเบียบเกี่ยวกับการสอบ ในวันที่ 19 มิถุนายน 2552 ที่เว็บไซต์
www.ojoc.coj.go.th/exam

8. หลักสูตรและวิธีการสอบแข่งขัน
ก. ภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (คะแนนเต็ม 100 คะแนน) โดยวิธีสอบข้อเขียน
แบบปรนัย
1. วิชาภาษาไทย
- การใช้ภาษาไทยตามหลักไวยากรณ์
- การเลือกใช้คำหรือกลุ่มคำ
- การเรียงความ
- การย่อความ
- การจับใจความสำคัญ
2. วิชาความรู้เกี่ยวกับกฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติราชการ
- พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543
- พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 และ
พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
- ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526
- ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง ของคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
- ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง ของคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม
- ความรู้เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
ข. ภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
โดยวิธีสอบข้อเขียนแบบอัตนัย
ทดสอบความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภาษาอังกฤษที่ใช้ในการปฏิบัติงาน
การแปลเอกสาร และร่างโต้ตอบหนังสือภาษาอังกฤษ
ค. ภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
จะประเมินผู้เข้าสอบเพื่อพิจารณาความเหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่จาก
ประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน พฤติกรรมที่ปรากฏทางอื่นของผู้เข้าสอบ และ
จากการสัมภาษณ์ เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในด้านต่าง ๆ เช่น ความรู้ที่อาจใช้เป็นประโยชน์
ในการปฏิบัติงานในหน้าที่ ความรู้ในเรื่องการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ความสามารถ ประสบการณ์
ท่วงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติ ประมวลจริยธรรมข้าราชการศาลยุติธรรมและลูกจ้าง
การปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงานรวมทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ
และบุคลิกภาพอย่างอื่น เป็นต้น
ผู้สมัครสอบจะต้องเข้าสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป และภาคความรู้
ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำ แหน่งก่อน ผู้ที่ได้คะแนนภาคความรู้ความสามารถทั่วไป
และภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งแต่ละภาคไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 จึงจะมีสิทธิ
เข้าสอบภาคความรู้ความเหมาะสมกับตำแหน่ง

9. เกณฑ์การตัดสิน
ผู้ที่ถือว่าเป็นผู้สอบแข่งขันได้จะต้องเป็นผู้ที่สอบได้คะแนนในแต่ละภาคที่สอบ
ตามหลักสูตรไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60

10. การประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้
การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ จะเรียงลำดับที่จากผู้สอบได้คะแนนรวมสูงลงมา
ตามลำดับ ในกรณีที่มีผู้สอบได้คะแนนรวมเท่ากัน จะให้ผู้สอบได้คะแนนภาคความเหมาะสมกับ
ตำแหน่งมากกว่าเป็นผู้อยู่ในลำดับที่สูงกว่า ถ้าได้คะแนนภาคความเหมาะสมกับตำแหน่งเท่ากัน
ให้ผู้ได้คะแนนภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งมากกว่าเป็นผู้ที่อยู่ในลำดับที่สูงกว่า
ถ้าได้คะแนนภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งเท่ากัน ให้ผู้ที่ได้คะแนนในภาคความรู้
ความสามารถทั่วไปมากกว่าเป็นผู้อยู่ในลำดับสูงกว่า ถ้าได้คะแนนภาคความรู้ความสามารถทั่วไป
เท่ากัน ให้ผู้ชำระเงินก่อนเป็นผู้อยู่ในลำดับที่สูงกว่า
การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ จะขึ้นบัญชีไว้เป็นเวลาไม่เกิน 2 ปี นับแต่วันขึ้น
บัญชี แต่ถ้ามีการสอบแข่งขันอย่างเดียวกันนี้อีกและได้ขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ใหม่แล้ว บัญชี
ผู้สอบแข่งขันได้ครั้งนี้เป็นอันยกเลิก

11. การบรรจุแต่งตั้ง
ผู้สอบแข่งขันได้จะได้รับการบรรจุและแต่งตั้งตามลำดับที่ในบัญชีผู้สอบแข่งขันได้
โดยได้รับเงินเดือนตามข้อ 1.1 ทั้งนี้ สำนักงานศาลยุติธรรมจะไม่รับโอนผู้สอบแข่งขันได้ที่เป็นข้าราชการ
ทุกประเภท
รายละเอียด(เพิ่มเติม) / เอกสาร
เว็บไซต์ / ลิงค์อื่นๆ http://www.ojoc.coj.go.th/exam/
http://203.150.229.100/ann.pdf
ฝากประวัติ ฝากประวัติเพื่อสมัคงานกับเว็บไซต์

บริษัท ไทยเว็บ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
2/152 ซอยเพชรเกษม 114 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10160
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี : 0105553027232
Tel : 02-810-8300 (จ.-ศ.08.30 - 17.30 น.) , 085-8213121 (24 ชม.) Fax : 02-810-8301
Email : [email protected] (ฝ่ายขาย) [email protected] (ฝ่ายบริการลูกค้า)
เพิ่มเพื่อน
0.046800136566162